วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อักษรสามหมู่
ภาษาไทยของเรามีพยัญชนะ  ๔๔  รูป  ๒๑  เสียง
มีพยัญชนะที่นำมาใช้  ๔๒  รูป  (  และ    ไม่ได้ใช้แล้ว)  ถึงอย่างไรนั้น 
 นักเรียนก็จำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้เรื่องหมู่ของอักษรไทย  (พยัญชนะไทย)  ซึ่งแบ่งออกเป็นสามหมู่  
ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนภาษาไทยเกี่ยวกับเสียงวรรณยุกต์ (ว่าด้วยการผันอักษร)
         นักปราชญ์ทางภาษาไทยในอดีตจึงจัดแบ่งพยัญชนะไทยออกเป็นสามหมู่ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  “ไตรยางศ์”   และชื่ออันเป็นที่คุ้นหูกัน นั่นคือ  อักษรสามหมู่
อักษรสามหมู่  ได้แก่
    อักษรกลาง
   อักษรสูง
   อักษรต่ำ

อักษรกลาง   
อักษรกลาง  มีทั้งหมด ๙ ตัว  ได้แก่
ก จ ด ฎ ต ฏ บ ป อ
อักษรกลางที่นิยมนำมาผันอักษร มี ๗ ตัว นะครับ  ได้แก่อักษร     ก จ ด ต บ ป และ      ส่วนอักษร   ฎ และ    นั้นไม่นิยมนำมาผันอักษร
วิธีการท่องจำอักษรกลางเพื่อให้เกิดองค์ความรู้สู่ทักษะพุทธิพิสัยขั้นสูงต่อไป  หมั่นฝึกว่า   ไก่  จิก  เด็ก  ตาย   (ฎ ฏ)   บน  ปาก   โอ่ง  (นิยมท่องกันแบบนี้)
หรือ    นักเรียนคนไหนต้องการสร้างคำอื่น ๆ  เพื่อเป็นหลักแห่งการท่องจำก็ย่อมทำได้ 
อักษรสูง
อักษรสูง  มีทั้งหมด ๑๑ ตัว ได้แก่
                       
อักษรสูงที่นิยมนำมาผันอักษรมี    ตัว คือ ข  ฉ  ถ  ผ  ฝ  ส  ห
ส่วนอักษร  ฃ  ฐ  ษ  ศ   ไม่นิยมนำมาผันอักษร
วิธีการท่องจำอักษรสูงเพื่อให้เกิดองค์ความรู้สู่ทักษะพุทธิพิสัยขั้นสูงต่อไป  หมั่นฝึกว่า
บทสำหรับจำอักษรสูง   ไข่  (ฃ)  ขวด   ฉิ่ง   ฐาน  ถุง  ผึ้ง  ฝา  (ศ ษ ส) สามสอ  หาย         หรือ    ฃ (ขวด)  ของ   ฉัน   ถูก   ผี  เศรษฐี (ศษฐ)    ฝัง   สาป  หาย
อักษรต่ำ
อักษรต่ำ  มีทั้งหมด ๒๔ ตัว ได้แก่
ค ฅ ฆ ง
ช ซ ฌ ญ
ฑ ฒ ณ ท ธ น
พ ฟ ภ ม
ย ร ล  ว ฬ ฮ
อักษรต่ำที่นิยมนำมาผันอักษร คือ ค ง ช ท น พ ฟ ม ย ร ล ว
อักษรต่ำ  แยกออกเป็น  อักษรคู่  และ  อักษรเดี่ยว เพื่อประโยชน์ในการผันอักษรให้ครบ    เสียง  ดังนี้
         อักษรคู่  มีทั้งหมด ๑๔ ตัว ได้แก่
ค ฅ ฆ ช ซ ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ฟ ภ ฮ
โดยอักษรคู่นี้ต้องผันเสียงทำหน้าที่ร่วมกับอักษรสูง  (พิจารณาตามหน่วยเสียง)  ดังนี้
/ค/   ค ฅ ฆ           ผันอักษรร่วมกับ 
/ช/   ช ฌ             ผันอักษรร่วมกับ 
/ซ/                  ผันอักษรร่วมกับ 
/ท/   ฑ ฒ ท ธ       ผันอักษรร่วมกับ 
/พ/                 ผันอักษรร่วมกับ 
/ฟ/                   ผันอักษรร่วมกับ 
/ฮ/                     ผันอักษรร่วมกับ 
อักษรเดี่ยว  มีทั้งหมด ๑๐ ตัว ได้แก่
ง  ญ  ณ  น  ม           ว  ฬ
บทสำหรับจำอักษรเดี่ยว(ครูคิดเอง หากนักเรียนต้องการจดจำคำอื่นก็สามารถแต่งเองได้ )เงิน  ญวน  เณร นำ มา  ไร้ ลาย ว่าว จุฬา
โดยอักษรเดี่ยวนี้ต้องผันเสียงทำหน้าที่ร่วมกับอักษร  “  และ  ”  อันทำหน้าที่เป็นอักษรนำเพื่อผันอักษรให้ครบ ๕ เสียง
ด้วยความประสงค์ให้นักเรียนทุกคนจดจำได้อย่างง่าย-เข้าใจ  นำไปใช้ได้ตลอดไป

อ้างอิง  ครูปิยะฤกษ์  บุญโกศล
โรงเรียนโพนทันเจริญวิทย์

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

นางเงือกในวรรณคดีไทย



นางเงือก
เงือกในพระอภัยมณีนั้นอาศัยอยู่ในทะเลลึก เป็นสัตว์ครึ่งคนครึ่งปลา ครั้นมีเรืออับปาง พวกนางเงือกก็ไปฉุดมนุษย์มาเป็นคู่ ทำให้ลูกหลานเงือกต่างรู้ภาษามนุษย์ 
รวมถึงเงือกพ่อเงือกแม่และนางเงือกของพระอภัยมณีก็รู้เช่นกัน สินสมุทรเองยังพิศวงกับรูปลักษณ์ของตัวเงือก ดังปรากฏในบทประพันธ์  ความว่า

เห็นฝูงเงือกเกลือกกลิ้งมากลางชล                 คิดว่าคนมีหางเหมือนอย่างปลา
ครั้นถามไถ่ไม่พูดก็โผนจับ                             ดูกลอกกลับกลางน้ำปล้ำมัจฉา
ครั้นจับได้ให้ระแวงแคลงวิญญาณ์                  เช่นนี้ปลาหรืออะไรจะใคร่รู้
ฉุดกระชากลากหางขึ้นกลางหาด                    แลประหลาดลักษณามีตาหู
จะเอาไปให้พระบิดาดู                                   แล้วลากลู่เข้าในถ้ำด้วยกำลัง
 จะเห็นว่าเงือกของสุนทรภู่นั้นมีความเป็นสากล  และสอดคล้องกับเงือกในทัศนะของชาวตะวันตกอย่างมาก  โดยเฉพาะเงือกที่มีชื่อเสียงซึ่งปรากฏในนิทานเรื่อง The Little Mermaid ของ ฮันท์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน  นักเขียนชาวเดนมาร์กก็มีตัวละครเอกเป็นครึ่งคนครึ่งปลา รูปร่างหน้าตาเหมือนนางเงือกในพระอภัยมณีอย่างชัดเจน
      นักวิชาการบางกระแสกล่าวว่า สุนทรภู่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครนางเงือกมาจากการติดต่อพูดคุยกับพวกตะวันตกที่มาค้าขายกับประเทศสยามในขณะนั้น
ซึ่งหากดูตามประวัติแล้ว วังหลังที่สุนทรภู่เคยอาศัยก็อยู่ในบริเวณที่มีการติดต่อการค้า 
     นอกจากนี้ยังมีข้อคิดเห็นส่วนหนึ่งที่เชื่อว่านางเงือกของสุนทรภู่มีต้นเค้ามาจาก ปลาพะยูน เพราะบรรดาชาวเรือในอดีตต่างก็เคยคิดว่าปลาชนิดนี้เป็นเงือกเช่นกัน อย่างไรก็ดี
ไม่ว่าสุนทรภู่จะได้ต้นแบบนางเงือกมาจากที่ใด หรือจะเป็นจินตนาการสร้างสรรค์ของ
ท่านสุนทรภู่เองทั้งหมดก็ตามที แต่เมื่อใดก็ตามที่พูดถึงเงือก เราก็มักจะนึกถึงนางเงือก
ที่มีรูปลักษณ์อย่างในพระอภัยมณีหรือ The Little Mermaid  เสมอ อาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า สุนทรภู่ได้สถาปนาภาพนางเงือกไทยในแบบสากลอย่างที่รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้
     ภาพดังกล่าวของนางเงือกอาจจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นจากตอนที่พระอภัยมณีได้
ยลโฉมของนางเป็นครั้งแรก  ดังเนื้อความในนิทานที่ว่า

พงศ์กษัตริย์ทัศนานางเงือกน้อย                      ดูแช่มช้อยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผมประไพพักตร์ลักษณ์ล้ำล้วนขำคม                             ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวงขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด                                ดังสุรางค์นางนาฏในวังหลวงพระเพลินพิศคิดหมายเสียดายดวง                              แล้วหนักหน่วงนึกที่จะหนีไป

     หากจะเทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มาเกี่ยวพันกับพระอภัยมณีแล้ว นางเงือกดูจะมีเล่ห์
เหลี่ยมน้อยกว่านางอื่นๆ และยอมยกใจให้พระอภัยมณีเพราะคำหวานหว่านล้อมอย่างที่
ฝ่ายชายถนัด  อย่างไรก็ตาม ความรักของนางเงือกนั้นอาจถือได้ว่าเป็น รักสนองคุณ
เพราะพระอภัยมณีนั้นมีบุญคุณที่ไม่ทำร้ายพ่อเงือกเมื่อคราวพบกันที่ถ้ำนางผีเสื้อสมุทร
 ในครั้งนั้นพ่อเงือกได้ปฏิญาณว่าจะเป็นข้ารับใช้พระอภัยมณีจนสิ้นชีวิต
     โครงเรื่องในลักษณะนี้มักพบเห็นเสมอในนิทานคำกลอนของสุนทรภู่
อาทิเรื่อง โคบุตร ก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง เมื่อพระโคบุตรช่วยชีวิตหรือชุบชีวิตใครก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นยักษ์  วิทยาธร  คนธรรพ์  ลิงเผือก  หรือนกกระจาบ ฝ่ายที่ได้รับการช่วยเหลือให้มีชีวิตอยู่ต่อไปต่างซาบซึ้งใจและยอมอยู่ใต้อำนาจของพระโคบุตรทั้งสิ้น แม้ก่อนหน้านั้นจะเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนก็ตาม เช่นเดียวกับพ่อเงือกในเรื่องพระอภัยมณี แรกทีเดียวก็คิดว่าตนต้องตายอย่างแน่นอนเพราะถูกลูกยักษ์อย่างสินสมุทรจับตัวมา แต่เมื่อได้พบพระอภัยมณีซึ่งสัญญาว่าจะปล่อยตนกลับไป ก็เท่ากับว่าพระอภัยมณีได้เป็นผู้ช่วยชีวิตตนไว้ ดังนั้นจึงสมควรแล้วที่พ่อเงือกจะยอมตัวเป็นข้าแก่พระอภัยมณี และบุญคุณนี้ยังถือเป็นหน้าที่ของแม่เงือกและลูกเงือกจะต้องร่วมซาบซึ้งและทดแทนด้วยกัน เพราะเหตุนี้เองที่แม้พ่อเงือกและแม่เงือกจะต้องตายไปด้วยน้ำมือของผีเสื้อสมุทรในคราวที่พาพระอภัยหนี แต่นางเงือกก็ไม่ถือโทษโกรธแค้นพระอภัยมณีแต่อย่างใด เพราะถือว่าพ่อเงือกยอมเป็นข้ารับใช้พระอภัยมณีจนสิ้นชีวิต การสูญเสียพ่อและแม่ของนางเงือกจึงเป็นเรื่อง การตายในหน้าที่มากกว่าพระอภัยมณีจะเป็นต้นเหตุนอกจากนั้น  นางเงือกยังต้องรับภาระตกทอดในการรับใช้พระอภัยมณีแทนพ่อกับแม่ที่จากไป  นางเงือกจึงไม่ค่อยมีปากเสียงกับพระอภัยมณีเท่าใดนัก  หน้าที่หลักคือดูแลลูกอย่าง สุดสาคร จนเติบใหญ่และได้ไปออกรบช่วยพ่อในเวลาต่อมา บทบาทของนางเงือกก็น่าสงสารไม่น้อยเมื่อมองด้วยสายตาของคนปัจจุบันเพราะเมื่อจากเกาะแก้วพิสดารไปแล้ว พระอภัยมณีก็ไม่เคยกลับมารับนางตามสัญญา(จะแวะมาเยี่ยมบ้างก็ตอนท้ายเรื่อง) ความสุขของนางยังพอมีอยู่บ้างเมื่อตอนหลังพระอินทร์เห็นใจช่วยตัดหางปลาและให้นางมีขาอย่างมนุษย์ และสุดสาครก็รับไปอยู่เมืองลังกากับลูกๆ หลานๆ ด้วยกันอย่างมีความสุข


อ้างอิง
http://www.aksorn.com/lib/detail_print.php?topicid=375









วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กาพย์สุรางคณางค์ ๒๘



กาพย์สุรางคณางค์ ๒๘
กาพย์สุรางคนางค์๒๘


กาพย์สุรางคนางค์๒๘


ลักษณะคำประพันธ์     
             ๑. บท บทหนึ่งมี ๗ วรรคขึ้นต้นด้วยวรรครับ ต่อด้วยวรรครอง และวรรคส่ง แล้วขึ้นต้น ด้วยวรรคสดับ รับ รอง ส่ง ตามลำดับ รวม ๗ วรรค เป็น ๑ บท แต่ละวรรคมี ๔ คำ ๑ บทมี ๗ วรรค รวม ๒๘ คำ จึงเรียกว่า  กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘     
              ๒. สัมผัส         
ก.   สัมผัสนอก หรือสัมผัสระหว่างวรรค อันเป็นสัมผัสบังคับ มีดังนี้        
คำสุดท้ายของวรรคต้น (วรรครับ) สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคถัดไป คือวรรครอง คำสุดท้ายของวรรคที่สามคือวรรคส่งสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ห้า (วรรครับ) คำสุดท้ายของวรรคที่สี่ (วรรคสดับ) สัมผัสกับคำที่หนึ่งหรือสองของวรรคที่ห้า (วรรครับ) และคำสุดท้ายของวรรคที่ห้า (วรรครับ) ส่งสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่หก (วรรครอง) สัมผัสระหว่างบท ของกาพย์สุรางคนางค์ คือ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๗ (วรรคส่ง) เป็นคำส่งสัมผัสบังคับให้บทต่อไป ต้องรับสัมผัสที่คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ (วรรคส่ง)
ตัวอย่าง
เดินดงพงไพร  เยือกเย็นเป็นใจ  ที่ใดเปรียบปาน
เสียงไก่ก้องป่า  ขันลาวันวาน เสียงนกร้องขาน  สำราญหัวใจ
 ข. สัมผัสใน แต่ละวรรคของกาพย์สุรางคนางค์ แบ่งช่วงจังหวะเป็นวรรคละสองคำ ดังนี้
                                     หนึ่งสอง หนึ่งสอง
                                     หนึ่งสอง หนึ่งสอง           หนึ่งสอง หนึ่งสอง ฯ
ข้อสังเกต
กาพย์สุรางคนางค์ไม่เคร่งสัมผัสใน จะมีหรือไม่มีก็ได้ ขอเพียงใช้คำที่อ่านแล้วราบรื่น
ตามช่วงจังหวะของแต่ละวรรคนั้น ๆ เท่านั้น
ส่วนสัมผัสนอกระหว่างวรรคที่สองกับที่สามและวรรคที่หกกับวรรคที่เจ็ด จะมีหรือไม่มี
ก็ได้ไม่บังคับเช่นกัน

อ้างอิง

http://www.tangklon.com